อุโมงค์ คือ ทางสัญจรใต้ดิน ที่ขุดเจาะลงไปใต้ดิน มีผนังโอบล้อมทุกด้าน โดยมีทางเข้า - ออกอยู่ทางเดียว  แต่โดยทั่วไปอุโมงค์มีไว้ใช้เป็นทางสัญจรรถยนต์ ซึ่งใครหลายคนกำลังประมาท และใช้ความเร็วเพื่อขับลอดอุงโมงค์แบบผิด ๆ อยู่ ASN Broker เตือนอันตรายจากการขับรถยนต์ลอดอุโมงค์ ลดความเร็วเพิ่มความปลอดภัย พร้อมวิธีป้องกันตาพร่ามัวชั่วขณะมาฝาก

ขับรถลอดอุโมงค์ ทำไมต้องลดความเร็ว?

        อุโมงค์ทางลอดเป็นเส้นทางที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุสูง เนื่องมาจาก ทัศนวิสัยการมองเห็นเปลี่ยนไป การขับรถจากที่สว่างเข้าสู่ที่มืด สายตาต้องใช้ระยะเวลาในการปรับแสงประมาณ 6 วินาที  หากไม่ปรับสายตาให้ดีก็จะเกิดภาวะ “ตาพร่ามัว” ชั่วขณะ เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ ต้องชะลอความเร็วและเตรียมปรับสายตาให้ดี ขณะที่การขับรถจากที่มืดออกสู่ที่สว่าง สายตาใช้ระยะเวลาในการปรับแสงประมาณ 3 วินาที

       สำหรับผู้ที่สวมแว่นกันแดดขณะขับรถ ก่อนลงอุโมงค์ให้ถอดออก  ปรับสายตาด้วยการกระพริบตารัวถี่ๆ 2-3 ครั้ง จากนั้นจึงลดความเร็วลง โดยเฉพาะอุโมงค์ที่มีสภาพภายในเป็นทางโค้ง ยิ่งต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ

ขับรถลอดอุโมงค์ให้ปลอดภัย

      – ใช้ความเร็วตามป้ายกำหนด เมื่อขับรถเข้า-ออกในอุโมงค์

      – เว้นระยะห่างรถคันหน้า ไม่ต่ำกว่า 5 เมตร ป้องกันอุบัติเหตุรถชนท้าย หากรถคันหน้าหยุดกะทันหัน จะช่วยให้มีระยะในการหยุดรถได้อย่างปลอดภัย

      – พยายามขับรถให้อยู่กึ่งกลางเลน ห้ามเปลี่ยนเลน เพราะรถที่ขับตามหลังมาอาจหยุดไม่ทัน ก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้

     – ไม่หยุดหรือจอดรถในอุโมงค์ แต่หากจำเป็นต้องเปิดไฟฉุกเฉิน เพื่อส่งสัญญาณเตือนให้ผู้ขับรถคันอื่น 

     – ระวังมากขึ้นช่วงฝนตก สภาพถนนเปียกลื่น มีน้ำท่วมขังเส้นทาง สภาพการจราจรติดขัด  เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ 

     – ห้ามใช้อุโมงค์ทางลอดเป็นที่หลบฝน โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ เพราะผู้ขับรถคันอื่นอาจมองไม่เห็น

       ป้องกันอุบัติเหตุล่วงหน้าไม่ได้ สิ่งที่ผู้ใช้งานรถยนต์อย่างเราทำได้คือการเตรียมพร้อมรับมือกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้น ใช้ถนนอย่างมีสติ ไม่ประมาท เพิ่มความอุ่นใจ และป้องกันความเสียหายจากค่าใช้จ่ายจากอุบัติเหตุด้วยประกันรถยนต์ ที่ ASN Broker ให้เราช่วยเซฟค่าเบี้ยประกันของท่าน เราคือตัวแทนนายหน้าประกันภัยที่พร้อมคัดสรรประกันรถยนต์ที่ตรงใจให้ท่าน พร้อมส่วนลด และความคุ้มครองเพิ่มเติมอีกมากมาย แม้จะงินเท่าเดิม 

ที่มา : กรมขนส่งทางบก