เคล็ด(ไม่) ลับ แก้กลิ่นอับบนรถยนต์หน้าฝน วิธีป้องกันความอับชื้นในระบบแอร์
Aug 6, 2023
ในช่วงหน้าฝน นอกจากต้องเจอกับน้ำท่วมขัง รวมถึงรถเสียระหว่างเดินทาง อีกหนึ่งปัญหายอดฮิตของรถยนต์ที่เลี่ยงไม่ได้เลยคือ “กลิ่นอับ” ภายในรถยนต์ สาเหตุหลักๆจะมาจากระบบแอร์ที่มีความชื้น ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นอับที่ไม่พึงประสงค์ และยังเป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อราต่างๆ ส่งผลที่ต่อสุขภาพของผู้ใช้รถยนต์โดยตรง
ทำไมถึงมีกลิ่นอับบนรถยนต์?
ตามหลักหลักวิทยาศาสตร์แล้ว กลิ่นไม่พึ่งประสงค์บนรถยนต์เกิดจากกลิ่นของสารอินทรีย์ระเหยที่เกิดจากชีวสังเคราะห์ของจุลินทรีย์ ตัวการสำคัญที่ทำให้จุลินทรีย์ดังกล่าวเติบโตได้ดี คือน้ำและออกซิเจน ด้วยสาเหตุนี้ จึงเป็นที่มาที่ทำให้ช่วงที่ฝนตกแล้วมีกลิ่นอับบนรถยนต์ โดยจุลินทรีย์ที่ว่านี้อาจมาจากน้ำที่ติดรองเท้า เสื้อผ้าที่เปียกชื้น
ทั้งนี้ความชื้นในอากาศที่ค่อนข้างสูง ทำให้ระบบแอร์ในรถยนต์กักเก็บความชื้นเอาไว้ นานวันเข้าก็กลายเป็นต้นเหตุของแหล่งสะสมแบคทีเรียและเชื้อรา ส่งผลให้เกิดกลิ่นอับ แถมยังมีเชื้อโรคฟุ้งกระจายไปทั่วรถยนต์
นอกจากนี้ ฝุ่นละอองสะสมภายในรถยนต์ และไส้กรองอากาศแอร์ตันก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ส่งผลให้เกิดกลิ่นอับในรถยนต์ได้
เพื่อให้เลี่ยงอุบัติเหตุ ASN Broker แนะนำ วิธีรับมือถนนลื่นตอนฝนตกหนัก ขับรถให้ปลอดภัย
การป้องกันไม่ให้เกิดความอับชื้นในระบบแอร์
1. ปรับความเย็นให้เหมาะสม
ช่วงหน้าฝนมีอุณหภูมิต่ำ ส่งผลให้ภายในรถยนต์เกิดความชื้น ถ้ารู้สึกว่าแอร์ภายในรถเย็นมากเกินไป ลองปรับอุณหภูมิแอร์ให้สูงขึ้น แทนการลดความแรงของพัดลมแอร์ ไม่ควรปิดหน้ากากแอร์มากกว่า 2 ตัว เพื่อให้ความเย็นถูกระบายออกมา ป้องกันไม่ให้เกิดความชื้นสะสมภายในตู้แอร์
2. ปิดสวิตช์ A/C ก่อนดับเครื่องยนต์
ปิดสวิตช์ A/C ก่อนดับเครื่องยนต์ประมาณ 1-2 นาทีเพื่อระบายความเย็นออกมาจากตู้แอร์ ลดความชื้นสะสมภายในซึ่งเป็นต้นเหตุของเชื้อแบคทีเรียและกลิ่นอับ
3. เปลี่ยนไส้กรองแอร์
ไส้กรองแอร์อาจเป็นแหล่งสะสมของผงฝุ่นละออง สิ่งสกปรกและเชื้อโรค หากไม่ได้เปลี่ยนไส้กรองแอร์ตามระยะเวลาที่เหมาะสม ทำให้แอร์เกิดกลิ่นเหม็นอับได้
4. จอดไว้กลางแดด
จอดรถไว้กลางแดด ในวันหยุดที่ไม่ได้ใช้งานรถยนต์ เปิดประตูทั้งสี่ด้าน ทิ้งไว้ 1-2 ชั่วโมงเพื่อระบายกลิ่นอับภายในรถยนต์
นอกจากนี้ยังมีตัวช่วยที่มีคุณสมบัติในการดูดซับกลิ่น และความชื้นได้ดี สามารถแก้ไขกลิ่นอับในรถยนต์ได้
1.ถ่านหุงต้ม
2.ใบชาตากแห้ง
3.กากกาแฟตากแห้ง
4.กระดาษหนังสือพิมพ์
5.เบกกิ้งโซดา สามารถแบ่งใส่ภาชนะแล้วตั้งทิ้งไว้ช่วยดูดกลิ่นอับได้ แถมมีอายุอยู่ได้นาน 6 เดือน ถึง 1 ปี
ความเชื่อผิดๆ กับการดับกลิ่นในรถยนต์
การใช้น้ำหอมเพื่อดับกลิ่นในรถยนต์ไม่ใช่วิธีแก้ไขที่ถูกต้อง การใช้น้ำหอมปรับอากาศ ช่วยดับกลิ่นเหม็นอับได้ก็จริง แต่ไอระเหยของน้ำหอมจะหมุนเวียนในระบบปรับอากาศ สะสมไปนานๆ ทำให้เกิดความชื้นเกาะอยู่ตามไส้กรองแอร์ และคอยล์เย็น เป็นสาเหตุให้ฝุ่นจับตัวหนาได้ง่ายขึ้น ทำให้ระบบทำความเย็นอุดตัน และเครื่องยนต์ต้องทำงานหนัก
ทั้งนี้การสูดดมน้ำหอมกลิ่นแรงเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดอาการมึนศีรษะ โพรงจมูกอักเสบ หรือแสบตา นอกจากนี้ การใช้พิมเสนเพื่อแก้ไขกลิ่นอบบนรถยนต์ก็ไม่ใช่วิธีที่ถูกต้องเช่นเดียวกัน เพราะพิมเสนที่ตากแดด หรือเก็บไว้ในอุณหภูมิสูงหากจอดรถไว้กลางแดดเป็นเวลานาน พิมเสนจะระเหย และละลาย ทำให้ระคายเคืองตา เมื่อสูดดมปริมาณมากๆ ติดต่อกันเป็นเวลานาน เป็นสารก่อมะเร็งชนิดหนึ่งด้วย
การดูแลรักษารถยนต์ต้องทำเป็นประจำสม่ำเสมอ เจ้าของรถยนต์ควรระมัดระวังมากขึ้นเมื่ออยู่ในช่วงฤดูฝน ต้องอาศัยความรอบคอบ และเทคนิกแก้กลิ่นอับบนรถยนต์ให้ดี นอกจากเรื่องรักษาระบบแอร์ในรถยนต์ให้ดีแล้ว ก็ต้องมีประกันรถยนต์ติดรถยนต์เอาไว้ด้วย เพื่อคุ้มครองช่วงหน้าฝน หากเกิดรถเสีย หรือรถดับกลางทาง หากสนใจทำประกันกับ ASN Broker มีแผนประกันภัยให้เลือกมากมาย จากหลายบริษัทประกันยอดนิยม พร้อมบริการจากเจ้าหน้าที่มากประสบการณ์ สามารถให้คำปรึกษา แนะนำแพ็กเกจสุดคุ้ม พร้อมแจกส่วนลดให้อีกแบบคุ้ม ๆ ผ่อนจ่ายได้ ไม่ต้องรีบ
ข้อมูลจาก : unitedhonda.com / tkn.co.th / pttfitauto.com