เคยมั้ย? อยากได้ประกันดีๆ ราคาถูกใจ แต่ยังได้รับความคุ้มครองแบบจัดเต็มเหมือนทำประกันรถยนต์ชั้น 1 อาจจะมีงบไม่พอ เราขอแนะนำ ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ที่ให้ความคุ้มครองเทียบเท่าประกันรถยนต์ชั้น 1 แต่ช่วยประหยัดค่าเบี้ยประกันภัยได้มากถึง 40%
ประกันรถยนต์ชั้น 2+ คุ้มครองอะไรบ้าง?
ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ถูกออกแบบมาเพื่อประหยัดค่าเบี้ย ขณะที่ให้กรมธรรม์คลอบคุลมเกือบเท่ากับประกันชั้น 1 เพราะประกันรถยนต์ชั้น 2+ คือ แผนประกันสำหรับคุ้มครองกรณี “รถชนรถ” เท่านั้น โดยมีกรมธรรม์คลอบคุลมความเสียหาย ดังนี้
-ให้ความคุ้มครองอุบัติเหตุรถชนกรณีรถชนรถทางบก
- ให้ความคุ้มครองความเสียหายจากสูญหายของรถยนต์ กรณีเพลิงไหม้ (ไฟไหม้รถยนต์) รวมทั้งภัยพิบัติทางธรรมชาติ (พายุฝน น้ำท่วม)
- ให้ความรับผิดชอบชีวิต ทรัพย์สิน และตัวบุคคล ทั้งเจ้าของรถยนต์ ผู้โดยสารร่วมในรถยนต์ และคู่กรณี
- ให้ความคุ้มครองค่าใช้จ่ายจากอุบัติเหตุส่วนตัว
- ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล ทั้งเจ้าของรถยนต์ ผู้โดยสารร่วมในรถยนต์ และคู่กรณี
- ให้ความคุ้มครองค่าซ่อมรถยนต์ทั้งเจ้าของรถยนต์และคู่กรณี
- ให้ความคุ้มครองการประกันตัวผู้ขับขี่กรณีเป็นฝ่ายผิด
แม้ว่าเทียบราคาค่าเบี้ยที่ต้องจ่ายประกันรถยนต์ชั้น 2+ เทียบกับประกันชั้น 1 นั้น ค่าเบี้ยอาจถูกลงเกือบ 40% นั่นจึงเป็นเหตุผลที่คนส่วนใหญ่ตัดสินใจเลือกทำประกันรถยนต์ชั้น 2+ เพื่อให้ได้ความคุ้มครองสูงสุด เกือบเท่าประกันชั้น 1 นั่นเอง
ประกันรถยนต์ชั้น 2 เหมาะกับใคร ?
1.คนที่มีฝีมือชำนาญในการขับรถ
โดยส่วนใหญ่แล้ว ประกันรถยนต์ชั้น 2+ นั้นเหมาะกับผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการขับรถ หรือมีประสบการณ์ด้านการขับขี่มามาก เพราะผู้ขับขี่ที่มีผีมือจะมีอัตราการเกิดอุบัติเหตุน้อย สามารถหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุได้มากกว่าผู้ขับขี่มือใหม่ แม้ว่าจะมีประสบการณ์ในการขับรถยนต์ แต่หากมีกรณีเกิดอุบัติเหตุเกิดขึ้น ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ยังคงคุ้มครองความเสียหายได้ตามกรมธรรม์ที่คลอบคลุม
2.รถยนต์มือสอง
ปกติแล้ว รถยนต์มือสอง หรือรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานมากกว่ 4 ปีขึ้นไป การทำประกันรถยนต์ชั้น 2+ ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีและคุ้มค่าที่สุด เพราะหากเจ้าของรถยนต์ซื้รถยนต์มือสองมาใช้งาน แน่นอนว่า รถยนต์มือสองส่วนใหญ่ ต้องมีอายุการใช้งานมากกว่า 3 ปีขึ้นขึ้นไป นั่นถึงทำให้การซื้อประกันรถยนต์ชั้น 2+ มีค่าเบี้ยที่ถูกลง และไม่จำเป็นต้องทำประกันชั้น 1 แม้ว่าจะได้รับการคุ้มครองที่เกือบเทียบเท่ากันนั่นเอง
3.คนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงรถหาย น้ำท่วม และพายุฝน
หนึ่งในกรมธรรม์ที่คุ้มครองรถยนต์หากทำประกันรถยนต์ชั้น 2+ คือ คุ้มครองกรณีรถหาย ไฟไหม้ และน้ำท่วม หากผู้ซื้อประกันมีที่อยู่อาศัยที่มีอัตราการเกิดการโจรกรรมรถยนต์สูง มีสภาพอากาศแปรปรวนรุนเเรง ก่อให้เกิดพายุ น้ำท่วม หรือไฟไหม้ การเลือกทำประกันรถยนต์ชั้น 2+ ก็สามารถชดใช้ค่าเสียหายส่วนนี้ได้
4.คนที่ไม่ใช่ค่อยได้ใช้งานรถยนต์ และมักใช้เส้นทางเดิมในการขับ
สำหรับผู้ที่ไม่คอยได้ใช้งานรถยนต์ มักจอดรถยนต์ไว้มากกว่านำออกไปขับขี่ หรือมีแผนการเดินทางที่มักใช้เส้นทางเดิมเป็นประจำ ทำให้คุ้นชินกับเส้นทางนั้น ๆ ประกันรถยนต์ชั้น 2+ เหมาะกับพฤติกรรมการผู้ขับรถยนต์แนวนี้ที่สุด แม้อาจเกิดความเสี่ยงน้อย แต่หากเกิดอุบัติเหตุรถชนระหว่างน้ำรถยนต์ออกไปใช้ ก็สามารถอุ่นใจได้เพราะประกันรถยนต์ชั้น 2+ ให้ความคุ้มครองครอบคลุมสูงสุดเหมือนกัน
5.คนที่อยากประหยัดงบ
แน่นอนว่าคนที่ต้องการการคุ้มครองคลอมคลุม เเต่ต้องการจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยที่ถูกลง เห็นทีว่าประกันรถยนต์ชั้น 2+ จะตอบโจทย์มากที่สุด เพราะสามารถประหยัดงบด้านค่าใช้จ่ายสำหรับซื้อกรมธรรม์ความคุ้มครองได้มากถึง 40% เทียบกับประกันชั้น 1 เเม้จะได้ความคุ้มครองเกือบเท่ากัน
ข้อยกเว้นประกันรถยนต์ชั้น 2+
หากใครที่กำลังสงสัยว่า ประกันรถยนต์ชั้น 2+ มีเงื่อนไข หรือ ข้อยกเว้นต่างจากประกันรถยนต์ชั้น 1 อย่างไรบ้าง ซึ่ง ความแตกต่างของประกันรถยนต์ชั้น 2+ คือ หากเกิดอุบัติเหตุโดยไม่มีคู่กรณี เช่น ถอยรถชนกำแพง ขับรถเฉี่ยวเสาไฟฟ้า เอารถไปปีนฟุตบาทจนช่วงล่างเสียหาย ประกันรถยนต์ชั้น 2+ จะไม่รับคุ้มครองทุกกรณี เพราะถือว่าเป็นความประมาทของผู้ขับรถ และไม่อยู่ในเงื่อนไขกรมธรรม์การคุ้มครอง
สำหรับใครที่กำลังมองหาประกันรถยนต์ชั้น 2+ ที่ไหนดี ราคาเด็ดโดนใจ ได้ความคุ้มครองสูงสุด ที่ ASN Broker มีแผนประกันภัยให้เลือกมากมาย จากหลายบริษัทประกันชั้นนำยอดนิยม พร้อมแพ็กเกจคุ้มครองเสริม ติดต่อเจ้าหน้าที่มากประสบการณ์ ให้คำปรึกษา แนะนำแพ็กเกจสุดคุ้มให้กับท่านได้ ผ่อนจ่ายได้ ไม่ต้องรีบ
ปรึกษาเรื่องการซื้อประกันรถยนต์จากเรา