5 เหตุผล ทำไมเบี้ยประกันภัยรถยนต์ถึงสูง
Jun 18, 2023
ราคาเบี้ยประกันที่ต้องจ่ายสำหรับทำประกันรถยนต์มีผลมาจากปัจจัยต่างๆ ตั้งแต่ประเภทความคุ้มครอง บันทึกการขับขี่ ไปจนถึงบริเวณการจอดรถ แม้ว่าจะใช้รูปแบบกำหนดวงเงินในการชำระเบี้ยแตกต่างกันจากหลายบริษัทประกันภัย แต่ปัจจัย 5 ข้อต่อไปนี้ คือ อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ต้องจ่ายเบี้ยประกันภัยรถยนต์สูง
อยู่ ๆ ก็แพง แบบนี้ใครจะจ่ายไหว?
รวม 5 เหตุผล ทำไมเบี้ยประกันภัยรถยนต์ถึงสูง
1.ประวัติการขับขี่
ยิ่งบันทึกการขับขี่ดีเท่าไร เบี้ยประกันภัยก็จะยิ่งถูกลงเท่านั้น หากมีประวัติเกิดอุบัติเหตุบ่อย ๆ หรือละเมิดกฎจราจร แม้เป็นข้อผิดพลาดเพียงเล็กน้อย ไปจนถึงความผิดอย่างร้ายแรงหลายครั้ง มีแนวโน้มว่าผู้ทำประกันจะต้องจ่ายมากกว่า แต่ในขณะเดียวกันถ้าผู้ทำประกันไม่มีประวัติการขับขี่ ก็มีโอกาสที่อาจจะต้องจ่ายมากขึ้นเช่นเดียวกัน ในกรณีนี้ หมายถึง ผู้ขับขี่มือใหม่ หรือรถยนต์คันแรก ไม่มีประวัติการประกันภัยรถยนต์นั่นเอง
2.ความถี่ในการใช้งานรถยนต์
ยิ่งผู้ทำประกันขับรถยนต์หรือเดินทางไกลบ่อยๆ หรือมีความจำเป็นที่ต้องเดินทางไปในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย โอกาสเกิดอุบัติเหตุก็ยิ่งมากขึ้น ดังนั้น ราคาเบี้ยประกันก็ต้องจ่ายมากขึ้น แต่ถ้าหากมีพฤติกรรมการใช้งานรถยนต์ขับรถเป็นครั้งคราว ขับรถไป-กลับเป็นประจำในเส้นทางเดิม มีอัตราการเกิดอุบัติเหตุน้อย ราคาเบี้ยก็จะลดลงตาม
3.พื้นที่ในการนำรถออกไปใช้งาน
เนื่องมาจากอัตราการการเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ สภาพอากาศ การโจรกรรม และอุบัติเหตุที่สูง ทำให้ผู้ขับขี่ในเมืองจึงต้องจ่ายค่าประกันรถยนต์ที่สูงกว่าผู้ที่อยู่ในเมืองเล็กๆ หรือพื้นที่ชนบท สถานที่ที่ผู้ทำประกันจอดรถ แม้บนถนนหรือในโรงรถที่มีการรักษาความปลอดภัย ส่งผลต่อราคาเบี้ยประกันที่อาจแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ทั้งสิ้น
4.อายุผู้ทำประกัน
โดยทั่วไปแล้ว ผู้ขับขี่ที่บรรลุนิติภาวะจะเกิดอุบัติเหตุน้อยกว่าผู้ขับขี่ที่มีประสบการณ์น้อย โดยเฉพาะวัยรุ่น หรือผู้ขับขี่ที่ยังเป็นมือใหม่หัดขับ บริษัทประกันอาจจะกำหนดราคาเบี้ยประกันภัยรถยนต์เพิ่มหากวัยรุ่นหรือเยาวชนอายุต่ำกว่า 25 ปีขับรถยนต์
5.รุ่นรถยนต์
ราคารถยนต์เป็นปัจจัยหลักในค่าเบี้ยประกันรถ เพราะมีตัวแปรอื่นๆ ที่ส่งผลต่อการคุ้มครอง เช่น โอกาสในการถูกขโมย ค่าซ่อมรถยนต์ ขนาดเครื่องยนต์ และประวัติความปลอดภัยโดยรวมของรถ รถยนต์ บริษัทประกันภัยไม่เพียงแต่พิจารณาว่ารถยนต์ปลอดภัยในการขับขี่และปกป้องผู้โดยสารได้ดีเท่านั้น แต่ยังพิจารณาถึงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับรถคันอื่นด้วย หากรถยนต์รุ่นใดรุ่นหนึ่งมีโอกาสเกิดความเสียหายสูงเมื่อเกิดอุบัติเหตุ บริษัทประกันภัยอาจเรียกเก็บค่าเบี้ยประกันภัยเพิ่มขึ้น